วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

Facebook Timeline: ใช้ยังไงให้ Happy


ลองมองไปที่ปุ่ม F บนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ของคุณสิว่ามันถูกใช้งานหนักมากจนตัวอักษรเริ่มเลือนลางไปแล้วหรือเปล่า? คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันเว็บที่เราเข้าบ่อยที่สุดอาจจะไม่ได้ Google แล้ว แต่เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook ที่แทบทุกคนจะต้องมีเอาไว้ใช้ติดต่อสื่อสาร อัพเดตข่าวจากเครือข่ายเพื่อนๆ ที่อยู่บนระบบออนไลน์ และเมื่อคนใช้มีเป็นจำนวนมาก การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้นก็ย่อมส่งผลกระทบมากตามไปด้วย
ล่าสุดหลายๆ คนคงได้เห็นกันไปแล้วกับการเปลี่ยนแปลง Facebook ครั้งใหญ่ กับสิ่งที่เรียกว่า Facebook Timeline ซึ่งจะว่าไปแล้ว มันก็เหมือนกับการออกแบบหน้า Profile ของผู้ใช้ใหม่ ด้วยคอนเซ็ปต์ของการเรียงลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่บนเส้นชีวิตของคุณตามลำดับเวลาที่เกิดขึ้น ที่สำคัญก็คือมันสามารถย้อนอดีตกลับไปตั้งแต่สมัยคุณเกิดได้เลยทีเดียว
ด้วย Facebook Timeline คุณสามารถจะใส่ชีวิตทั้งชีวิตของคุณลงไปในนั้น เป็นเหมือนบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของคุณตามช่วงเวลาต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ Status, รุปภาพ, วิดีโอ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกของ Facebook
หลายคนอาจจะถามว่าแล้วข้อมูลส่วนตัวของฉันก่อนที่จะมาเล่น Facebook มาจากไหน คำตอบก็คือคุณต้องเป็นคนอัพโหลดขึ้นไปเอง Facebook ไม่สามารถไปค้นหาประวัติของคุณมาใส่ได้ ซึ่งถ้าทำได้จริงๆ ต้องถือว่าเป็นระบบที่ “โคตรเทพ” และเป็นระบบที่ “โคตรน่ากลัว” เอามากๆ เลยทีเดียวที่สามารถทราบข้อมูลของเราทั้งหมดตั้งแต่เราเกิด (แค่ตอนสมัคร Google+ แล้วมันมีข้อมูลเราหมดเลยไม่ว่าจะเป็นอาชีพ สถานที่ทำงาน โรงเรียน แค่นี้ก็ตกใจจะแย่แล้ว) ดังนั้นเราจึงต้องกรอกข้อมูลงไปเองโดยเรียงตามลำดับเวลา ซึ่งแน่นอนว่า “โกงได้” ไม่ต้องบันทึกตามช่วงเวลาที่เกิดขึ้นจริง ก็แหม… ใครจะไปจำได้ว่าเหตุการณ์ไหนเกิดขึ้นก่อนหลังแบบเป๊ะๆ จริงไหมนะ
หลังจากมีการอัพเกรด Facebook Timeline ให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานกันได้แล้ว ก็มีเสียงบ่นกันมาอย่างหน้าหูเลยทีเดียว ซึ่งเสียงส่วนใหญ่นั้นปรากฏว่า “ไม่ชอบ” ครับ ทั้งที่จริงๆ แล้วทุกอย่างก็ดูเหมือนจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ทำไมคนถึงไม่ชอบ Timeline กันนะ?
 จากที่หาข้อมูลเสียงตอบรับผู้ใช้ในอินเทอร์เน็ต และสอบถามเพื่อนๆ ดูก็พอที่จะสรุปเป็นประเด็นได้หลายๆ เรื่องดังนี้
  • เลย์เอาต์มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ดูยาก โดยเฉพาะการแบ่งข้อมูลออกเป็น 2 ฝั่ง แล้วมีเส้นอะไรไม่รู้มาขั้นกลาง บางโพสต์สั้น บางโพสต์ยาว เวลาเรียงลงมาสองฝั่งแล้วดูยาก (อันนี้เห็นด้วย)
  • รูปเยอะไป สำหรับคนที่เน้นความสวยงามของหน้า Profile ของตัวเอง และตกแต่งไว้อย่างสวยงามแล้ว พอเปลี่ยนมาเป็น Timeline ก็ต้องมานั่งตกแต่งกันใหม่ ต้องหารูปมาทำ Cover Picture กันใหม่อีก ลำบากนะเนี่ยะ
  • ห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัว อย่างที่บอกว่า Facebook สามารถจุข้อมูลของเราได้ตั้งแต่เกิด ดังนั้นถ้าเราใส่ข้อมูลอย่างครบถ้วน คนที่เข้ามาดูแทบจะรู้ชีวิตเราทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้ แค่ปกติก็รู้สึกไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์เท่าไหร่อยู่แล้ว
  • นอกนั้นก็จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นเหนื่อยที่จะต้องอัพข้อมูลต่างๆ ของตัวเองขึ้น (เอ๊ะ ไม่มีใครบางคับซะหน่อย) และอีกส่วนก็บอกว่ามันดูตื่นเต้นในตอนแรก แต่พอดูๆ ไปก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าไหร่นัก
ใช่ครับ ที่พูดมาทุกอันนั้นเป็นเรื่องจริงหมด จริงๆ แล้ว Facebook Timeline นั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษขึ้นเลย แต่นำเอาข้อมูลที่คุณเคยกรอกไว้ใน Facebook มาเรียงร้อยและจัดแสดงออกมาในรูปแบบใหม่เท่านั้นเอง ดังนั้นเรื่องความเป็นส่วนตัวก็ยังคงสามารถกำหนดได้เช่นเดิม ข้อมูลอะไรต้องการให้เพื่อนคนไหนเห็นบ้าง หรือข้อมูลสำคัญๆ ก็ไม่ต้องใส่ไว้ก็ได้ และถึงแม้ว่า Facebook Timeline จะสามารถใส่ข้อมูลได้ตั้งแต่เราเกิด แต่เชื่อเถอะว่าน้อยคนนักที่จะพยายามย้อนกลับไปอัพข้อมูลเก่าๆ ที่อาจจะไม่มีใครสนใจอยู่แล้วด้วยซ้ำ
สิ่งที่บ่นกันมาหากลองมองดูดีๆ มันไม่ได้อยู่ที่ความไม่ได้เรื่องของ Facebook Timeline เลย แต่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะเรา “ไม่ชิน” มากกว่าอย่างเช่นการเสียเวลาต้องมาตกแต่งภาพให้เข้ากับ Layout ใหม่ ยังไงสักวันคุณก็ต้องเบื่อของเก่า เปลี่ยนวันนี้หรือเปลี่ยนอีก 1 ปีข้างหน้าก็คงไม่เดือดร้อนมากนัก แต่เรื่องการวาง Layout ข้อมูลเป็น 2 ฟาก ซึ่งจะเกิดปัญหาในการไล่ดูลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอันนี้เห็นด้วยว่าลำบากขึ้นจริงๆ แต่ก็คงไม่ได้ยากเกินความสามารถที่จะปรับตัวจริงไหม
จะว่าไปปัญหาของ Facebook Timeline นั้นไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด เพียงแค่คุณอาจจะยังไม่ชินกับหน้าจอแบบไหน เพราะลิงค์ต่างๆ ได้ถูกย้ายตำแหน่งไปหมดเลย จากที่เคยกดดูข้อมูลของเพื่อน (หรือของแฟน) ว่าไปพูดคุยกับใครใน Facebook ไว้บ้าง แล้วเกิดหาปุ่มที่จะกดดูไม่เจอ แค่นี้ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณเกลียด Facebook Timeline ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม Facebook ยังคงต้องมีการพัฒนาต่อไป การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณจะต้องปรับตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ อย่างกลัวกับการเปลี่ยนแปลง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น